“แต่ถ้าเป็นจุดเด่นของ HRI เลย คือ
ได้มีการโต้ตอบกันค่อนข้างเยอะ
แล้วก็ในส่วนของการแบ่งกลุ่ม Workshop
ก็จะมีความถี่ในการทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน…”
ผู้ให้สัมภาษณ์
คุณรุ้ง : ตอนนี้ทำงานอยู่ที่บริษัท Sumitomo Corporation เป็นบริษัทญี่ปุ่นนะคะ เป็น Trading และ Investment Company อยู่แผนก Automotive นะคะ ทำงานกับ Sumitomo มาตั้งแต่ปี 2013 แต่ย้ายมาแผนก Automotive ปี 2019 ค่ะ อยู่ในด้านของ Business Development ค่ะ คือของเราจะมีทั้ง Trading, Non-Trading และก็ Business Development มีทั้งหมด 3 ทีมค่ะ
คุณรุ้ง : ส่วนมากจะเป็นลักษณะของสัมมนาแบบบรรยาย แต่ว่าจะไม่มีการ Interact กัน จะเป็นลักษณะฟังซะส่วนมาก คือจะเป็นแค่ Input อย่างเดียว
คุณรุ้ง : ตอนแรกก็มองว่าถ้าเป็นลักษณะนี้ ยิ่งเป็นคอร์ส Presentation มันน่าจะเป็นในลักษณะของ Physical มากกว่า แต่ยังนึกภาพไม่ค่อยออกว่า เวลาจะต้องทำ Workshop เราจะทำออกมาในลักษณะไหน ต้องออกไปยืนพรีเซนต์ไหม อะไรประมาณนี้ แต่พอได้มาลองจริงของ HRI ทำได้ มีกิจกรรม มีการต้องพรีเซ้นต์จริงถึงแม้จะเป็นคอร์สออนไลน์ ทุกคนสามารถเตรียมการพรีเซ้นต์และทำผ่านการออนไลน์ได้เหมือนจริง จากเทคนิคต่างๆในคอร์ส
คุณรุ้ง : ครั้งนี้เนื่องจากว่าอบรมแบบกลุ่มเล็ก เราก็มองว่ามันก็มีข้อดีตรงที่ว่ามันทั่วถึง ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็น หรือทำกิจกรรมร่วมกัน โดยที่แบบไม่ต้องเร่งรีบในเรื่องของเวลามาก ทุกคนก็เป็นอันเอง ก็เลยมองว่ามันก็เหมือนเป็น Informal แบบ ทุกคนสามารถแสดงออกในส่วนของไอเดียของตัวเองได้ ก็ดีค่ะในจุดนี้ค่ะ
อย่างถ้าเป็นอบรมออนไลน์ทั่วไป อาจจะเหมือนกับว่าเราไม่ได้มีโอกาสที่จะทำกิจกรรมอะไรมาก แต่ถ้าเป็นจุดเด่นของ HRI เลย คือ ได้มีการโต้ตอบกัน ค่อนข้างเยอะ แล้วก็ในส่วนของการแบ่งกลุ่ม Workshop ก็จะมีความถี่ในการทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน แบ่งกลุ่มเเล้วก็ทำกิจกรรมแบบนี้ทุกๆชั่วโมง คือสามารถทำได้เหมือนเวลาเราไปเรียนทั่วๆไป ก็คือมีการแบ่งกลุ่ม มีการได้ Discuss กันจริงๆ
การอบรมออนไลน์ จะมีความล้ากว่าแบบ Face to face นะ เพราะว่ามันจะต้องมองคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ 8 โมง ครึ่ง ถึง 5 โมงเย็น แต่ข้อดีก็คือ ไม่ต้องเดินทาง คือประหยัดเรื่องค่าเดินทาง แล้วก็ในเรื่องของอุปกรณ์ คือสามารถอยู่ที่บ้าน แล้วก็สมมุติว่าท่อนบนเราอาจจะแต่งตัวให้ดี แต่ข้างล่างกางเกงขา สั้นก็ได้ มันก็มีความ Relax กันคนละแบบ
คุณรุ้ง : ต่างกันไม่มากค่ะ มองว่าต่างกันตอน Workshop คือออนไลน์เราก็แค่โฟกัสว่าเรานั่งกับคอมแค่นั้น ถ้าอย่างเป็น Physical เราอาจจะได้ฝึกจากตัว Material จริง เราได้มองเห็นคนอื่นๆในห้อง เนื้อหาข้อที่เราได้จากการอบรมก็คือยังสามารถนำมาประยุกต์มาปรับใช้ได้เหมือนกันค่ะ
คุณรุ้ง : น่าจะเป็น Workshop ค่ะ ต้องให้ผู้สัมมนามีส่วนร่วมในการทำ Exercise เพราะบางทีฟังอย่างเดียวก็จะผ่านไป แต่ถ้าเราได้ลองทำทันที พอเวลาผ่านไปเราก็ยังจำสิ่งที่เราได้ทำอยู่ มันก็อาจจะ Recap ได้เร็วขึ้น และอยู่ในความทรงจำเราได้นานขึ้น
คุณรุ้ง : น่าจะเป็นตอนทำ Presentation เดี่ยวค่ะ ก็คือ เราได้ทำออกมาแล้วเราก็ได้ฟัง Comment ด้วย คือไม่ใช่แค่ว่า ทำ Exercise ผ่านไปแล้วก็จบแบบนี้ แต่เราได้ฟัง Feedback ด้วยว่า สิ่งที่เราทำไปมันมีข้อดีข้อเสียยังไง เราก็จะได้รู้ว่าเราควรปรับปรุงตรงไหน เพราะว่าบางทีเราเองเราก็ไม่ทันได้สังเกตตัวเอง ได้ร่วมฝึกไปพร้อมๆกับคนอื่นๆ แล้วก็เห็น ข้อไหนที่เป็นจุดที่เราอาจจะต้องเพิ่มเติม ก็คือเหมือนช่วยๆกันไป พร้อมๆกันได้
คุณรุ้ง : มองว่าตอนนี้น่าจะหันมาทางออนไลน์กันเยอะขึ้น เพราะว่าช่วงโควิด ทุกคนจะโดนจำกัดเรื่องพื้นที่หรือการรวมตัวจัดสัมมนากันใหญ่ๆ อย่างที่สองก็อาจจะเป็นในเรื่องของ Budget คือทุกบริษัทก็อาจจะมีการรัดเข็มขัดเรื่องการคุมค่าใช้จ่ายมากขึ้น ก็เลยมองว่าออนไลน์ มันก็อาจจะเป็น ส่วนหนึ่งที่ช่วยลด Cost ได้ด้วย คือไม่ต้องเดินทาง แล้วเราก็สามารถทำได้เองที่บ้าน แล้วก็ลดการพบปะ ลดการแพร่กระจายของโรคได้
คุณรุ้ง : Conflict Management ค่ะ แบบต้องมี Goal ทำยังไงให้ Conflict มันหายไปแล้วก็แบบจบด้วยการ Compromise ที่ทุกคน Happy หมด
วีธีการจัดการ Communication ยังไง หรือว่าเป็นเรื่องการส่งสารยังไงให้เราสามารถพูดโน้มน้าว ลดการแตกแยก หรือว่าทำให้เกิดความเห็นตรงกันให้ได้มากที่สุด จริงๆมันก็รวมๆหลายๆเทคนิค
คุณรุ้ง : ก็มองว่า ในช่วงนี้คือทุกคนพยายาม Up skill ตัวเอง ไม่ว่าจะทางใดก็ทางหนึ่ง เราก็เลยมองว่าตรงนี้อาจจะลองให้โอกาสตัวเองโดยที่ไม่จำเป็นต้องรอให้สภาวะกลับมาสู่ปกติ อาจจะต้องลองพิจารณาคอร์สออนไลน์ที่ตัวเองสนใจ หรือลองในคอร์สเล็กๆก่อนคอร์สหนึ่งก็ได้ เอาที่ตัวเองสนใจก่อนเลย แล้วถ้าลองแล้วเกิดติดใจ อนาคตก็ค่อยลงคอร์สอื่นๆเพิ่มเติม
เพราะข้อดีของการเรียนออนไลน์ คือ ไม่ต้องเดินทางและค่าใช้จ่ายในคอร์ส Physical อาจจะแพงกว่า แต่ว่าพอเรามาเรียนออนไลน์แบบนี้ก็ได้ความรู้เหมือนกัน เทคโนโลยีต่างๆ ทำให้เราสามารถได้รับความรู้ในช่วงโควิดแบบนี้ Up skill ได้เท่ากันก็ดีไปอีกแบบค่ะ
วันนี้เราก็ได้ทราบถึงข้อมูลดีๆจากประสบการณ์ตรงของผู้ที่ผ่านคอร์สอบรมกับ HRI Thailand
ท่านไหนสนใจทดลองอบรมออนไลน์กับทางเรา สามารถเช็ครายละเอียดและตารางอบรมเพิ่มเติมได้ที่ คลิก
159/37 อาคารเสริมมิตรทาวเวอร์ ชั้นที่ 23
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี : 0105562173254
Copyright © 2024 HRI (Thailand) Co.,Ltd. All rights reserved.
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ยอมรับทั้งหมด